วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2559

09/09/2016 - 30/09/2016 ปิดเดือน SEP "risk ไม่คุ้ม reward"





SET ดูไม่ดีเลยหลังจากขึ้นมาให้ใจชื้นตั้งแต่ต้นปี ....ตบเดือนเดียว อะไรๆก็ดูแย่ไปหมด ยังอยู่ในช่วง Sideway ถ้ามี New Low ก็คงรอกันยาวๆ RSI ลงมาเลี้ยงล่างถ้าไม่ตัด 50 ขึ้นมาก็มีแนวโน้มลงมากกว่าขึ้น อันที่จริง SET เราก็ขึ้นมา Trade กันที่ PE สูงมากๆแล้ว ขนาดใน TV ยังหยิบเรื่องนี้มาพูดเลย (อันที่จริงก็มีคนพูดมาตั้งแต่ต้นปีเลยนะ)


ref: https://www.set.or.th/th/market/market_statistics.html

อันนี้เป็นสถิติ PE รายเดือนตั้งแต่ 2518 ถึง ปัจจุบัน ค่าเฉลี่ย PE อยู่ที่ประมาณ 18 (เส้นสีเขียว) และเส้นสีเหลือคือ +- 1SD  และเส้นสีส้มคือ +- 2SD   SET เราเคย trade กันเกิน 2SD อยู่แค่ 3 ครั้งในประวัติศาสตร์  เด่นๆก็ตอนสงคราม วิกฤตต้มยำกุ้ง และ วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์  แต่ตอนนั้นภาคธุรกิจจริงก็แต่งตั้งชื่อให้ได้จำกัน   แต่วันนี้มันถึงขั้นนั้นหรือยัง? จะมีชื่อให้มันเร็วๆนี้มัน ถ้ามันลงยาวๆ ดูแนวโน้มแบบนี้แล้ว Upside มันช่าง Limit อย่างยิ่ง มีอยู่ 2 ทางเท่านั้นที่ SET เราจะได้ไปต่อกัน คือ 
   1) เศรษฐกิจจะต้องมี Earning ที่วิ่งตามดัชนีให้ทัน --> ก็ต้องลองคิดดูว่าอนาคตบริษัทไทยเราทั้ง 700 ตัว จะดัน Earning เพื่อกด PE เราให้กลับมาสู่ภาวะปกติได้รึเปล่า
   2) สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ไปเลย ทุกคนพร้อมใจกัน Trade ที่มากกว่า PE+2SD เป็นเรื่องปกติ เนื่องจากเงินเฟ้อล้นโลก --> ถ้าพึ่ง FundFlow เราก็ไม่ต้องสนใจ PE ในอดีตมากนัก เอาแค่เทียบกับประเทศรอบข้างเรา แล้วเราเนื้อหอมกว่าก็พอ ยังไงเงินก็ไม่มีวันหยุดอยู่กับที่

Leading system ไฟแดง แผนคือ Limit Exposure ไม่เกิน 30% + งด Pyramid 
จริงๆค่า Maximum ของ Exposure 30%  มันมาอย่างนี้ครับ ตอนปกติระบบที่ Backtest มาช่วงขาลงยังไงก็ขาดทุนมากกว่าได้ แล้ว Drawdown มันมักลึกขึ้นเรื่อยๆในขาลง จนมาสุดที่ค่าๆหนึ่งซึ่งก็จะกลายเป็น Maximum DD ในช่วงเวลานั้น แต่ปัญหาคือเราไม่มีวันรู้ว่ามันจะไปหยุดเมื่อไหร่ พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ และผมไม่เอาอีกแล้ว Fully System  แต่ก็ไม่อยากหยุด System ไปเลยเสียทีเดียว  ผมก็สมมติไปเลยถ้าหากเรา run system เสมือนว่ามันเหลือเงินแค่ 30% ของ Port และซื้อขาย 30% ของ Position ที่ควรซื้อ ทีนี้สถิติ"จำนวน"กำไร/ขาดทุนใน Port จะไม่เปลี่ยนแปลง แต่"ขนาด"กำไร/ขาดทุน น้อยลง   ก็น่าจะทำให้ DD ไม่ลึกเท่า Fully System

==> ถ้าเทียบกับไพ่โปกเกอร์(Poker) คือ ในเมื่อหน้าไพ่เรารู้อยู่แล้วว่า Risk ไม่คุ้ม Reward ที่จะเสี่ยง มีทางเลือกที่ฉลาดในการ Bet ครั้งนี้ก็คือ ไม่หมอบไพ่ไปเลย(หยุดเล่น) ก็ Bet ให้มันน้อยลง  ทีนี้เราจะเลือกอะไรก็แล้วแต่คนจะเสี่ยงครับ ในเกม Poker ก็ต้องเสี่ยงเหมือนกัน เพราะความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดในเกมนี้คือ "อนาคต"  เราไม่รู้ว่าอนาคตไพ่ที่หมอบอยู่มันเข้าข้างเราหรือไม่   ในกรณีของผมก็แค่เสี่ยงเท่าที่เราจะได้ดูไพ่ใบต่อไป แต่ก็ bet ให้น้อย เพื่อที่เราพลาดจะได้มีสิทธิ์เริ่มจั่วไพ่กันใหม่ในรอบหน้า ดีกว่าลุกออกจากโต๊ะเป็นไหนๆ





Port YTD 17.31%
SET YTD 15.15%
ช่วงนี้ exposure ราวๆ 20% ไม่มีหุ้น winning เลย ทุกตัว คิดว่าคงรอให้ผ่านพ้นช่วงที่ลำบากนี้ไปก่อน ค่อยคิดกันอีกรอบ สรุปแล้ว 2 ปียังไม่กลับไปจุดสูงสุดเดิมเลย แค่ YTD พอไปวัดไปวาได้เฉยๆ แต่ Equity ตั้งแต่ตน MaxDD ตั้งเกือบ 40% จะเอากลับมาได้ก็ต้องทำกำไร 67% เพื่อกลับมาเท่าทุน ตอนนี้ยัง DD ~10% ต้องทำอีก  ~10 % ทรงแบบนี้ก็น่าจะปีหน้า Drawdown period 3 ปี! 
ปล. ยังไม่ได้เปิดดู Robot แต่น่าจะคล้ายๆกัน ไว้สิ้นปีค่อยดู ไม่อยากกวน


Momentum 


ไม่มีตัวไหนอยู่ในสายตาเลย ต้องไปขุดกันดู






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น